Police Man คดีรักดักจับยัยแมวโขมย
เด็กสาวดวงตกแต่เกิด ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ซ่ำร้ายยังโดนนายตำรวจสุดหล่อข้อหาขโมยของอีก อร๊ายยยย ชีวิตยัยรูปปั้นนี่ซวยบรมจริงจริง
ผู้เข้าชมรวม
252
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ขโมย! ค่ะ ขโมย! ใครก็ได้ช่วยจับขโมยที มันมาขโมยของร้านป้าอีกแล้ว!”
น้ำคลองเหม็นเน่าที่เต็มไปด้วยขยะภายในสลัมเล็กๆแห่งหนึ่งกำลังสะท้อนภาพเด็กสาวร่างบางที่กำลังวิ่งหนีเสียงตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือของป้าศรี เจ้าของร้านขายของชำ ที่กำลังตะโกนเรียกให้คนมาช่วยจับยัยแมวขโมยที่เอาแต่ขโมยของในร้านแกเป็นประจำ แมวขโมยใส่เสื้อคอกลมสีดำตัวโคร่ง กางเกงยีนขาสั้นขาดๆ พร้อมกับรองเท้าผ้าใบที่ปะแล้วปะอีก กำลังวิ่งหัวฟูออกมาจากตลาดนัดอย่างสุดชีวิต แก้มขาวเนียนใสของเธอ กำลังขึ้นเป็นสีแดงอมชมพู บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าที่โจรสาวมี แทนที่ใบหน้าของหญิงสาวจะแสดงออกถึงความเหนื่อยล้า แต่ไม่เลย ใบหน้าที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนกำลังเผยยิ้มน่ารักๆออกมา ในที่สุดเวลาอาหารของเธอก็มาถึงเสียที ผิวที่เมื่อก่อนเคยขาวเนียนใส ดุจดั่งเด็กทารกที่เพิ่งเกิด ตอนนี้กลับดูหม่นหมองเพราะสภาวะที่แสนจะสกปรกรอบตัวเธอ ดวงตาสีน้ำตาลดำกลมโตคู่สวย พร้อมกับแผงขนตายาว บวกกับตาสองชั้นของเธอ ทำให้ดวงตาคู่นั้นดูลึกลับน่าค้นหามากขึ้นเป็นเท่าตัว
Roob Pun’s Side:
หึหึ ถึงยัยป้านั้นจะตะโกนจนคอหอยแตกก็ไม่มีใครมาช่วยได้หรอกย่ะ ก็ฉันนะเป็นขโมยมือดี ฝีเท้าเร็วเชียวน้า ไม่มีใครวิ่งไล่ฉันได้ทันหรอก ฮ่าๆๆ ตอนนี้ฉันก็หนีมาได้ไกลเหมือนกันแล้วสินะ ทุกคนคงงงกันว่าทำไมสาวน้อยน่ารักอย่างฉันถึงได้มาเป็นขโมย เหตุผลมีอยู่ข้อเดียว คือฉันไม่มีตังค์จ่ายไงคะ (นางเอกเรื่องนี้กวนมากค่ะ) เอาอย่างนี้แล้วกัน ระหว่างที่ฉันนั่งกินขนมปังใกล้หมดอายุ กับนมเกือบบูด ฉันก็จะแนะนำตัวให้ฟังคร่าวๆแล้วกันนะคะ
ฉันมีชื่อว่ารูปปั้น อายุสิบเก้า ไม่เคยเรียนหนังสือ ไม่มีบ้าน ไม่มีครอบครัว เอ...แล้วอะไรอีกนะ อ๋อ ฉันเคยอยู่สถานที่รับเลี้ยงเด็กจนๆที่ไม่มีแม้แต่เงินที่จะจ้างครูมาสอนหนังสือ แต่ว่า… เพราะชีวิตในนั้นมันย่ำแย่เกินเยียวยา ฉันจึงตัดสินใจหนีออกมาเมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว เหตุผลที่หนีออกมายังมีอีกนะ คือฉันโดนเพื่อนๆที่โตมาด้วยกันกลั่นแกล้งอย่างหนัก (สงสัยอิจฉาในความสวยของฉันล่ะมั่ง โฮะๆ) ที่สำคัญที่สุดคือฉันอยากที่จะลองดูแลตัวเองดูน่ะ^^ แต่ว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ง่ายอย่างที่ฉันคิดไว้ เพราะตัวเองไม่มีทั้งเงินทั้งความรู้ จึงจำเป็นต้องมาเป็นขโมยอย่างที่เห็น... (TT_TT) เฮ้อ ชีวิตมันช่างน่าเศร้า
“ยัยแมวขโมยในที่สุดฉันก็วิ่งตามเธอทัน” เอ๊ะ อยู่ๆก็มีชายหน้าหล่อใส่ชุดสีกากีวิ่งมาหาฉัน เอ๊ะ? เอ๊ะ? เอ๋?? ตำรวจค่า ตำรวจ ฉันกำลังจะโดนตำรวจจับ โกยโลดดดดด วิ่ง!! วิ่งๆๆ ฉันวิ่งหลบไปทางเดิมที่ฉันหนีมา เพราะมันจำเป็นที่จะต้องผ่านตลาดนัด ที่นั้นคนพลุกพล่าน แถมวันนี้ยังเป็นวันสิ้นเดือนคนจึงเยอะเป็นพิเศษ เข้าทางล่ะคร๊าบ ที่นี้นายตำรวจคงจะจับฉันไม่ทันแน่ๆ
หลังจากที่วิ่งมานาน ฉันก็ตัดสินใจที่จะหยุดวิ่ง… โอ้ย เหนื่อยเป็นบ้าเลย เร่งสปีดขนาดนี้นายตำรวจคงตามฉันไม่ทันแล้วล่ะ ในที่สุดฉันก็มาถึงบ้านของฉัน... ถึงมันจะดูไม่เหมือนบ้านก็เถอะ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นที่ซุกหัวนอนให้ฉันได้ก็แล้วกัน มันคือช่องแคบๆใต้สะพานลอยโทรมๆ ที่อาจจะดูสกปรกไปหน่อยสำหรับใครหลายๆคน แต่ว่ามันก็มีทั้งหมอนและผ้าห่มขาดๆที่ฉันไปขโมยมาก่อนที่เขาจะเอาไปขายของเก่า ถึงจะอดอยากแต่ฉันไม่มีทางคุ้ยของในขยะมาใช้แน่นอน มันให้ความรู้สึกน่าอ้วกเกินไปอ่ะ แต่ว่ามาลองนึกดู นายตำรวจคนนั้นก็เก่งเหมือนกันแฮะ ไม่เคยมีตำรวจคนไหนวิ่งตามฝีเท้าของฉันทันเลยนะ ประมาณว่า ฉันเก่ง (\^O^/)
“ยัยแมวขโมยทีนี้เธอก็หนีไม่ได้แล้วล่ะ...ไปสน.กับฉันเดี๋ยวนี้”
อยู่ๆก็มีมือลึกลับล่วงเข้ามาในบ้านของฉัน แล้วก็เอากุญแจมือเหล็กมาล็อคข้อมือฉันเอาไว้ กรี๊ดดดด อะไรน่ะ มือมันขาวๆซีดๆเหมือนผีเลยอ่ะ ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉ้าน! ปล่อยเซ่!!
ฉันทั้งทุบทั้งข่วน แล้วก็ทุบอีกข่วนอีกไปที่มือผีนั้นจนตอนนี้มันเริ่มที่จะขึ้นเป็นรอยเล็บของฉันแล้ว แต่ใครสนล่ะ ฉันพยายามที่จะยื้อไม่ให้มือผีมันลากฉันออกไปได้ โธ่เอ้ย ฉันแรงน้อยกว่ามือผีบ้านี้เยอะเลยอ่ะ แล้วมันก็ลากๆ แล้วก็ลากฉันออกมา
“ฉันเจ็บนะ โอ้ยๆๆ เบาๆหน่อยสิไอ้มือผี” ไอ้บ้านี้แรงควายชะมัด
“ทำไมฉันจะต้องเบามือกับขโมยอย่างเธอ นี้! หยุดข่วนฉันได้แล้ว” คุณตำรวจกรอกเสียงแข็งใส่หูฉัน
ตาบ้านี้น่ากลัวชะมัด ตาสีเฮเซลนัททรงเสน่ห์ของเขาจ้องลึกลงมาในดวงตาสีดำมืดของฉันอย่างร้ายกาจ หยั่งกับฉันเคยไปฆ่าพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวดของเขาไว้งั้นแหละ น่ากลัวเป็นบ้าเลย ฉันต้องหาทางหนี
“อา...สุดหล่อจ๋า อย่าจับฉันเลยนะ ฉันไม่เคยเรียนหนังสือ ไม่มีเงินจึงต้องมาเป็นขโมย ฉันมันก็แค่เด็กจนๆธรรมดาดูบ้านฉันสิ อย่ามาใจร้ายกับฉันเลย และก็นะ...กระซิกกระซิก... สิ่งที่ฉันขโมยก็เป็นของเกือบหมดอายุทั้งนั้นแหละ ฉันขอแค่ให้มันทำให้ท้องน้อยๆของฉันอิ่มสักนิดก็พอแล้ว… กระซิกกระซิก… ปล่อยฉันไปเถอะนะ” มารยาหญิงค่ะ อย่างนี้มันต้องใช้มารยาหญิง!!! เพราะกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อฉันจึงพยายามบีบน้ำตาเพื่อให้มันดูสมจริง แต่รู้สึกว่าถ้าไม่ใช่ดาราคงจะสั่งให้น้ำตาไหลไม่ได้ง่ายๆสินะ… น้ำตาเจ้าจงไหล!!
“นี้เธอ!! ไม่ต้องมาแกล้งบีบน้ำตาใส่ฉัน มันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก”
ตำรวจหน้าหล่อ แต่จิตใจอัปลักษณ์เหมือนอสูรกลายพันธ์ทำเสียงเข้มใส่หูฉัน อะไรเนี่ย ทำไมต้องทำน่ากลัวด้วย หนูไม่ดื้อหรอก แต่ว่า… ให้ตายฉันไม่ยอมเข้าคุกเด็ดขาด ไม่งั้นชีวิตสาวน้อยคนนี้จบสิ้นแน่ (TT_TT)
“ช่วยด้วยค่า ใครก็ได้ช่วยด้วย ตำรวจจะข่มขืนประชาชน” แหกปากค่ะ อย่างนี้มันต้องแหกปาก
“นี้เธอหุบปากไปเลยนะ” คุณตำรวจใจร้ายเอามือมาปิดปากฉัน หนอย คิดว่าฉันจะยอมแพ้เหรอ
“โอ้ย” เสียงคุณตำรวจร้องเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนฝ่ามือเพราะโดนฉันกัดเองค่ะ หึหึ เอามือมาปิดปากฉัน ฉันก็กัดให้น่ะสิ แบร่
“ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยฉันที ไอ้บ้านี้มันจะข่มขืนช้าน” ตู๊ดๆ ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก แงๆ ไม่มีใครผ่านมาแถวนี้เลยหรือไงนะ?!? (TTOTT)
“ฤทธิ์เยอะนักนะ ยัยหัวขโมย ไหนดูสิว่าเธอยังจะมีฤทธิ์อยู่อีกหรือเปล่า”
“นี่ นายจะทำอาอัยอั้นอ่ะ (นี่นายจะทำอะไรฉันน่ะ)” อยู่ๆเขาก็เอาผ้ามามัดปากฉัน เขาเป็นนักมายากลเรอะ อยู่ๆเอาผ้ามาจากไหน!! โธ่เอ้ย ไอ้ผ้าบ้านี่มันทำให้ฉันพูดไม่รู้เรื่อง แถมไม่ว่าฉันจะตะโกนยังไงก็ไม่มีทางที่ใครจะฟังรู้เรื่องหรอก
“อ่อยอั้นเอี๋ยวอี้อ้า อาอ้า (ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ตาบ้า)” แงๆๆ พูดไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ โธ่เอ้ย!! (TT_TT)
“ทีนี้เธอก็ตะโกนใส่ร้ายฉันไม่ได้แล้วล่ะ ยัยหัวขโมย” เขาแยกเขี้ยวขู่ฉันฟ่อๆ
“อออ้องอ่ะ อ่าอับอั้นเอ้าอุกเอยอะ อั้นอึ้งอะอาอุอิบเอ้าเอง อั้นอ่ะออมอำอะอัยอ้ออ้ายแอกอับอารอี้อายไอ้อับอั้นเอ้าอุก (ขอร้องล่ะ อย่าจับฉันเข้าคุกเลยนะ ฉันพึ่งจะอายุสิบเก้าฉันจะยอมทำอะไรก็ได้แลกกับการที่นายไม่จับฉันเข้าคุก)” โอ๊ยเหนื่อย พูดไปตั้งเยอะแล้วเขาจะฟังภาษาบ้านี่รู้เรื่องไหมอ่ะ ถ้าเขาฟังไม่ออกฉันก็เหนื่อยเปล่าอ่ะดิ
อยู่ๆบรรยากาศรอบตัวของเราก็เปลี่ยนไป คุณตำรวจไม่ตอบอะไรได้แต่สบตาฉันนิ่ง ราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ควงตาคู่นั้นดูเจ็บปวดเหมือนมีความทุกข์บางอย่างกำลังกัดกินหัวใจของเขา เราจ้องตากันอยู่นานโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ไม่รู้เพราะอะไรฉันจึงไม่กล้าที่จะทำลายความเงียบสงบอันน่าอึดอัดนี่
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และบรรยากาศอันน่าอึดอัดก็หายไป
“อะไรก็ได้?” เขาเลิกคิ้วถามฉัน เอ๋ ดูเหมือนจะรู้เรื่องแฮะ แสนรู้เหมือนกันนี่ เหอะเหอะ
“อะไออ้อไอ้ (อะไรก็ได้)”
หลังจากที่เสียงอันแผ่วเบาหลุดออกจากปากฉัน รอยยิ้มปีศาจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของนายตำรวจอย่างมีเลศนัย เออ… คือว่า… ฉันเปลี่ยนใจไปกินข้าวแดงแทนได้ไหมอ่ะ?!?
ผลงานอื่นๆ ของ black_cheery ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ black_cheery
ความคิดเห็น